7 อันดับสุดยอดแอปจดโน้ต 2019

1. Evernote

      แอปจดโน้ตแอปหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากทั่วโลก ด้วยผู้ใช้งานที่มากกว่า 100 ล้านคน แถมมีรูปแบบการใช้งานจดโน้ตที่เรียบง่าย ใช้งานสะดวก หรือแม้กระทั่งอาจจะคั่นหน้าเว็บ หรือเก็บข้อมูลเนื้อหาบางส่วนจากเว็บได้ หรือจดโน้ตพร้อมใส่รูปและวีดิโอได้ด้วย Evernote ยังมีแพลนสมาชิกหลายระดับ ทั้ง Basic Premium และ Business 

2. Microsoft OneNote

      แอปที่มีชื่อเสียงมากในหมู่นักเรียนนักศึกษาในการจัดการโน้ตสำหรับการเรียน จุดโดดเด่นอย่างหนึ่งคือสามารถทำงานร่วมกันได้ผานหน้าจอคอมของตัวเอง และไม่ใช่แค่การจดโน้ตเท่านั้น Microsoft OneNote ยังสามารถไฮไลท์ข้อมูลส่วนที่สนใจ และเปลี่ยนตัวหนังสือเขียนของเราให้กลายเป็นตัวอักษรพิมพ์ได้อีกด้วย มีการแบ่ง section ในการจดเอาไว้ได้เป็นระเบียบ และสวยงาม แถมยังฟรีสำหรับทุกบัญชีของ Microsoft อีกด้วย 

3. Bear

      Bear เป็นแอปจดโน้ตที่สามารถใช้งานได้เฉพาะบน iPhone, iPad และ Mac เท่านั้น ถูกออกแบบมาด้วยดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย และคลีน ไม่ว่าจะเป็นการจดอะไรก็ตามตั้งแต่การเขียนสคริปท์ หรือจดสูตรอาหาร ก็มีเทมเพลตพร้อมให้ใช้งานเลย สามารถจดเมื่อไหร่ก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ทุกที่ทุกเวลาที่ว่าง

      นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษอย่างอื่นอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น เพิ่มรายการสิ่งที่ต้องทำ รูปแบบธีมที่หลากหลาย แปลงไฟล์ได้หลายสกุล ทั้ง HTML, PDF, DOCX, JPG และอื่น ๆ สามารถใส่ # เพื่อช่วยในการค้นหาภายหลังได้ 

      ข้อดีคือสามารถใช้งานได้ฟรีบน Mac, iPad และ iPhone สามารถเริ่มต้นใช้งานเพื่อจดโน้ต เพิ่ม tags ไฟล์รูปภาพได้เลยทันที 

      สำหรับสมาชิกแบบเสียเงิน Bear Pro สามารถเชื่อมต่อข้อมูลในทุกอุปกรณ์ที่เรามี ทำให้เราสามารถทำงานผ่านอุปกรณ์ใดก็ได้ มีธีมที่สวยงามให้เลือกมากมาย โดยราคาจะอยู่ที่ $1.49 ต่อเดือนจะได้สิทธิใช้ฟรี 1 สัปดาห์ และราคา $14.99 ต่อปีจะได้สิทธิใช้ฟรี 1 เดือน

4. Dropbox Paper

      Dropbox Paper เจ้าของเดียวกันกับ Dropbox เจ้าของเว็บฝากไฟล์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นมากกว่าที่เก็บข้อมูลแต่เป็นพื้นที่ในการทำงานร่วมกันกับทีม สำหรับคนที่ชอบฝากไฟล์บน Dropbox อยู่แล้ว การใช้ Dropbox Paper อาจจะเป็นทางหนึ่งที่สะดวกในการจัดเก็บไฟล์อย่างมาก 

5. Simple Note

      แอปจดโน้ตที่สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่าย ดีไซน์สะอาดเรียบง่าย เพียงแค่กดเพิ่มโน้ตง่าย ๆ สามารถใช้งานได้ทั้งบน iOS, Android, macOS, Windows และ Linux เช่นกัน 

      ข้อดีของการใช้ Simple Note คือข้อมูลการจดโน้ตสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ทุกอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ ค้นหาคีย์เวิร์ดได้ง่าย แถมยังมีการให้ใส่ Tags เพื่อช่วยในการค้นหาภายหลังได้

      นอกจากนี้เรายังสามาร์แชร์ลิสต์ หรือโน้ตของเราออนไลน์ให้คนอื่นได้ มีการสำรองข้อมูลให้เราโดยอัตโนมัติตลอดเวลา

      และที่สำคัญที่สุดคือ เราสามารถใช้งาน Simple Note ได้ฟรี

6. Notion

      แอป Notion สามารถใช้งานได้ทั้งโน้ตประจำวัน จดโปรเจกต์ หรือกิจกรรมอะไรก็ได้ มีรูปแบบการจดโน้ตที่สวยงาม ดูทันสมัย น่าใช้ โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้งานไม่เป็น เพราะในแอปจะมีการสอนการใช้งานเบื้องต้นให้ 

      นอกจากนี้ยังมีการแบ่งงานในแบบ Kanban board เพื่อช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีปฏิทินที่ช่วยให้เราสามารถเพิ่มงานลงไปในแต่ละวันได้ 

      Notion มีคุณสมบัติที่ค่อนข้างพิเศษตรงที่สามารถสร้าง workspace เพื่อทำงานร่วมกันได้ สามารถเพิ่ม blocks หรือ elements ต่าง ๆ เข้าไปในโน้ต ได้ ไม่ว่าจะเป็น To-do list, Quote, Numbered/Bulleted/Toggle list และสามารถเพิ่มไฟล์มีเดียชนิดต่าง ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ หรือไฟล์วีดิโอ ถือว่าเป็นแอปหนึ่งที่มีความน่าสนใจมาก

7. Google Keep

https://keep.google.com      Google Keep หนึ่งในแอปของบริษัท Google เป็นอีกแอปหนึ่งที่สามารถจดโน้ตได้สะดวกง่ายดาย มีการเชื่อมต่อข้อมูลในทุกอุปกรณ์ที่ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Gmail ของเรา แถมยังมีฟังก์ชันการอัดเสียงเพื่อจดเป็นแบบ Voice Note ได้อีกด้วย สามารถตั้งแจ้งเตือน (Reminder) เอาไว้เตือนการทำงานต่าง ๆ 

      ข้อดีอย่างหนึ่งของ Google Keep คือสามารถใช้งานได้ฟรี แถมยังสามารถสร้างโน้ตได้ไม่จำกัดพื้นที่ และไม่กินพื้นที่ของ Google Drive เหมือนอย่าง Google Docs หรือ Gmail

      แต่ข้อเสียคือไม่มีการรวบโน้ตให้เป็นโน้ตบุค แต่จะเก็บเป็นโน้ตย่อย ๆ แต่ละโน้ตแยกกัน จำกัดตัวอักษรอยู่ที่ 20,000 ตัวอักษรเท่านั้น 

      ยังไงก็ตาม Google Keep ก็ยังเป็นแอปจดโน้ตที่น่าสนใจด้วยความที่ใช้งานได้ฟรีไม่จำกัด แถมใช้งานได้ง่าย

error: Content is protected !!
Shares