5 วิธีเปลี่ยนนิสัยเลิกนิสัยที่ไม่ดีของตัวเอง 😩
ชีวิตของเราทุกคนคือผลลัพธ์ที่มาจากนิสัยที่ดี และไม่ดีของเราปนกันนิสัยด้านที่ไม่ดี เช่น ชอบกินอาหาร fast food ตลอด นอนดึก ผัดวันประกันพรุ่ง ทุกพฤติกรรมที่ทำร้ายตัวเอง และเป็นอุปสรรคไม่ให้เราไปถึงเป้าหมาย ลองนึกภาพดูว่าถ้าหากเราสามารถกำจัดนิสัยแย่ ๆ เหล่านี้ออกไปจากชีวิตได้ และเพิ่มนิสัยด้านบวกให้มากขึ้น แน่นอนว่าชีวิตเราก็จะเป็นไปในด้านที่ดีมากขึ้น ในบทความนี้เราจะมาค้นหากันว่านิสัยที่กำลังขัดขวางเราอยู่ในตอนนี้มีอะไรบ้าง และเราจะกำจัดมันได้ยังไง ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องอาศัยทั้งเวลา ความมุ่งมั่น และความพยายามของแต่ละคนที่จะลบนิสัยที่แย่เหล่านี้ออกไปให้ได้ แล้วเราจะเป็นอิสระในการใช้ชีวิต
อย่างแรก เราต้องยอมรับก่อนว่านิสัยที่ไม่ดีของเรามีอะไรบ้าง นิสัยก็คือพฤติกรรมที่เราทำซ้ำ ๆ เป็นประจำทุกวัน สังเกตตัวเองดูว่าพฤติกรรมไหนของเราที่คิดว่าทำแล้วส่งผลที่ไม่ดีต่อตัวเราบ้าง ข้อนี้สำคัญมากนะคะ เพราะส่วนใหญ่เรามักจะทำนิสัยไปตามจิตใต้สำนึกทำไปโดยอัตโนมัติ ไม่ทันได้คิดอะไร ดังนั้นต้องลองคิดคำตอบดูดี ๆ ซื่อสัตย์กับตัวเอง แล้วเขียนลงไปในกระดาษ ไม่ต้องกังวลว่าเรามีนิสัยแย่ ๆ เยอะมาก เขียนยาวจนล้นกระดาษ เราจะมาค่อย ๆ แก้นิสัยเหล่านั้นด้วยกันค่ะ
หลายคนถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่านิสัยที่ไม่ดีของตัวเองคืออะไร แต่ปัญหาคือไม่รู้ว่าจะกำจัดนิสัยพวกนั้นไปได้ยังไง หรืออาจจะกำจัดออกไปได้ไม่นาน นิสัยพวกนั้นก็กลับมาอีก
นิสัยคือกระบวนการหนึ่งที่ประกอบไปด้วย 4 ปัจจัย
ปัจจัยแรก Trigger หรือตัวกระตุ้น
ปัจจัยที่สอง Craving หรือความต้องการ
ปัจจัยที่สาม Response คือการตอบสนอง
ปัจจัยที่สี่ Reward คือรางวัล
สิ่งที่สำคัญที่สุดในกระบวนการของนิสัยนี้คือส่วนของ Craving หรือความต้องการนั่นเอง 🤤 เพราะเมื่อไหร่ที่เรามีความต้องการอยากจะทำพฤติกรรมนั้น จะมีการส่งสัญญาณความสุขไปยังสมองทำให้เรารู้สึกอยากทำพฤติกรรมเหล่านั้นซ้ำ ๆ อีก ยกตัวอย่างเช่น ความเหนื่อยล้าจากการทำงานเหนื่อยมาทั้งวันเป็นตัวกระตุ้นให้เราเกิดความอยากที่จะไปหาบุฟเฟต์อร่อย ๆ กิน แทนที่จะไปออกกำลังกายต่อ เมื่อเราเลือกที่จะไปกินบุฟเฟต์ตอบสนองต่อความอยากนี้แล้ว ก็จะเป็นการกระตุ้นให้เรารู้สึกอร่อย มีความสุขเป็นรางวัลที่ทำพฤติกรรมนี้ แม้บางคนอาจจะบอกตัวเองว่าขอแค่วันนี้วันเดียว แต่สุดท้ายก็แทบจะไปกินทุกวันเพราะเราติดใจรางวัลที่ได้ ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีความอยากและตอบสนองไปแบบไหน สมองเราก็จะจำเอาไว้จนตอบสนองไปแบบเดิมไวมาก ไม่ทันได้คิด
แต่อย่างไรก็ตามยังมีวิธีอีกมากมายที่ช่วยเรากำจัดนิสัยแย่ ๆ เหล่านั้นออกไปได้ แต่ละวิธีอาจจะได้ผลสำหรับทุกคนไม่เท่ากัน ลองเลือกวิธีที่เราคิดว่าได้ผลสำหรับตัวเองมากที่สุดค่ะ 💪
วิธีแรก หักดิบ เป็นวิธีคลาสสิคเสมอเวลาที่พูดถึงการเลิกนิสัยแย่ ๆ การหักดิบคือการที่ตัดสินใจเลิกทำนิสัยนั้นตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เช่น เลิกสูบบุหรี่เลยทันที อาจจะเป็นวิธีที่ยากที่สุดเพราะต้องใช้กำลังใจมากที่สุด 🧡 แต่แย่หน่อยที่วิธีหักดิบนี้มักไม่ค่อยได้ผล เพราะเมื่อไหร่ก้ตามที่เราเจอตัวกระตุ้นแล้ว ยากมากที่จะห้ามตัวเองไว้ได้ เพราะนิสัยฝังลึกในจิตใต้สำนึกของเรามาก ๆ ถึงแม้บางคนที่รู้สึกว่าตัวเองสามารถหักดิบได้สำเร็จแต่สุดท้ายก็มักจะกลับมาทำพฤติกรรมเดิมซ้ำอยู่ดี ถ้าเราเลิกนิสัยเดิมไม่ได้ แล้วกลับไปทำอีกอาจจะทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเองแทน กลายเป็นความไม่มั่นใจ เพราะลองทำไปแล้วก็ล้มเหลว แต่ไม่ได้หมายความว่าวิธีหักดิบจะไม่ได้ผลเลยนะคะ ก็ยังมีหลายคนที่สามารถเลิกสูบบุหรี่ หรือเลิกนิสัยแย่อื่น ๆ ได้ด้วยการหักดิบเลย แต่มันอาจจะเป็นวิธีที่ยากหน่อย ต้องอาศัยความอดทน ความมุ่งมั่น และแรงใจอย่างมาก แต่ข้อดีคือถ้าเราสามารถหักดิบนิสัยนึงไปได้แล้ว แสดงว่าเรามีกำลังใจเข้มแข็งมาก ไม่ต้องกลัวความท้าทายอื่น ๆ ในชีวิตไปเลย
วิธีที่สอง เปลี่ยนวงจรนิสัย 🧠 งานวิจัยมากมายพบว่าสมองของเราเก็บวงจรนิสัยเอาไว้แตกต่างจากความทรงจำอื่น ๆ นิสัยมักจะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดความอยากที่จะทำพฤติกรรมบางอย่าง ดังนั้นถึงแม้เราจะมีความอยากนั้นเป็นตัวกระตุ้นจุดเริ่มต้น เราก็ไม่จำเป็นต้องทำนิสัยแบบเดิมไปตลอด แต่ให้ทำพฤติกรรมอย่างอื่นที่ดีกว่าแทนจะเป็นการแก้ไขวงจรนิสัยของเราในสมองให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น แต่พฤติกรรมใหม่ที่เราสร้างนี้ต้องมีผลกระทบ และคุณค่าที่มากพอจนเรารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง และอยากจะเปลี่ยนมาทำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เช่น ยกตัวอย่างบางคนที่พอทำอะไรเบื่อ ๆ แล้วก็จะติดนิสัยหันไปอนเล่นโทรศัพท์ พอเรารู้ตัวว่าเราเบื่อปุ๊ปให้ทำอย่างอื่นแทน เช่น ลองเปิดแอป calm มาฝึกนั่งสมาธิให้จิตใจสงบ ไม่วุ่นวาย เชื่อมายด์เถอะค่ะว่าพอรู้ตัวแล้วว่าอารมณ์ไหนที่กระตุ้นให้เรากลับไปทำนิสัยแย่ ๆ ลองเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านั้นดู ไปทำอย่างอื่นที่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น แล้วเราจะรู้สึกดี และขอบคุณตัวเองมาก ๆ ค่ะ
วิธีที่สามเป็นการผสมผสานระหว่างวิธีแรก และวิธีที่สองสำหรับคนที่อยากกำจัดนิสัยเสียไปแต่รู้ว่าถ้าหักดิบทำไม่ได้แน่ ๆ วิธีคือลองสังเกตนิสัยตัวเองว่าอะไรคือตัวกระตุ้นให้เราทำนิสัยเหล่านั้น 🥘 และหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นจะช่วยจำกัดไม่ได้เราทำนิสัยเสียมากไปได้ ยกตัวอย่างเช่น การลดของหวานในแต่ละวัน ตัวกระตุ้นคือการเดินผ่านหน้าร้าน เดินไปส่งเพื่อนซื้อน้ำหวานจนสุดท้ายก็ซื้อตามให้หลีกเลี่ยงสถานการณ์เหล่านี้ และค่อย ๆ ลดปริมาณน้ำหวานที่กินต่อวันลงเรื่อย ๆ ส่วนตัวมายด์เองวิธีนี้ใช้ได้ผลนะคะ พอหลีกเลี่ยงไปหลาย ๆ วันแล้วก็กลายเป็นว่าไม่ติดกินน้ำหวานไปเลย แต่อาจจะมีบ้างบางวันที่เผลอกิน แต่ก็ไม่ต้องโกรธหรือโทษตัวเองมากไปนะคะ แค่วันถัดไปลองพยายามใหม่อีกครั้งก็พอแล้ว ลองนับจำนวนครั้งที่เราเผลอไปด้วยก็ได้ว่าเอาชนะใจตัวเองได้ดีมากขึ้นมั้ย
วิธีที่สี่ โฟกัสเฉพาะนิสัยที่ดี 🎼 เวลาที่เราอยากเลิกนิสัยอะไรบางอย่าง เรามักจะชอบสั่งตัวเองว่า เราจะไม่กินน้ำหวาน เราจะไม่นอนเล่น ไม่กินอาหารฟาสต์ฟู้ด ไม่เล่นมือถือ เราโฟกัสเพียงแต่ว่าเราจะต้องงดสิ่งเหล่านี้ทั้งที่ในใจลึก ๆ เรารู้อยู่แล้วว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้เรามีความสุขกว่านั่งอ่านหนังสือ หรือออกกำลังกายแน่ ๆ ทำให้เราโหยหาความสุขชั่วคราวจากนิสัยที่ไม่ดีเหล่านั้นจนอาจจะทำให้การเลิกนิสัยแย่ ๆ เป็นไปได้ยากขึ้น ดังนั้นให้เลิกโฟกัสว่าเราต้องเลิกทำอะไร แต่โฟกัสตรงที่ว่าเราจะสร้างนิสัยดี ๆ อะไรมาทดแทนได้บ้าง นิสัยแบบไหนที่ช่วยพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นได้
และสุดท้ายคือเราต้องทำให้กระบวนการล้มเลิกนิสัยที่ไม่ดีเหล่านั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่ขาดหายก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเลิกนิสัยแย่ ๆ ไปได้แค่ไม่กี่วันก็คงไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ ถ้าใครเลือกใช้วิธีค่อย ๆ ลดปริมาณการทำนิสัยแย่ ๆ ลง ให้จดบันทึกก็ได้ว่าจากปกติกินน้ำหวานวันละ 3 แก้ว ลดลงเหลือวันละ 2 แก้วได้ครบ 1 สัปดาห์มั้ย ถ้าครบก็ให้ยินดี และภูมิใจกับตัวเอง จะช่วยให้เรามีแรงจูงใจทำต่อ พร้อมตั้งเป้าหมายว่าในสัปดาห์ถัดไป จะลดเหลือเพียง 1 แก้วให้ได้ ถ้าใครเลือกใช้วิธีเปลี่ยนวงจรนิสัยให้บันทึกว่าตัวกระตุ้นไหนที่เราเปลี่ยนแล้วได้ หรือไม่ได้ผลบ้าง หรือถ้าใครใช้วิธีหักดิบเลย ต้องบอกเลยว่าเก่งมาก ๆ นะคะ ให้บันทึกความสำเร็จในการหักดิบของเราเอาไว้ใน Habit tracker เพื่อให้เห็นภาพได้เลยว่าเราเลิกพฤติกรรมนั้นมาได้นานเท่าไหร่แล้ว
การเลิกนิสัยแย่ ๆ นั้นต้องอาศัยทั้งเวลา และความมุ่งมั่นอย่างมาก บอกเลยว่าไม่ง่ายเพราะมันจะมีตัวล่อให้เรากลับไปทำนิสัยเดิม ๆ อยู่เสมอ แต่ก็ไม่เกินความสามารถของเราแน่นอน 🎖
อย่าลืมประเมินตัวเองบ่อย ๆ เพราะผลดีที่ได้จากการประเมินความคืบหน้าพวกนี้คือความรู้สึภูมิใจในตัวเองค่ะ ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะคิดยังไง ถ้าพวกเขาไม่เคยสังเกตว่าตัวเองมีนิสัยแย่ ๆ อะไรบ้างก็ไม่รู้ถึงความยากลำบากในการเลิกนิสัยเหล่านั้น หากเราสามารถควบคุม และเอาชนะใจตัวเองได้ เราก็เก่งมากแล้วค่ะ ไม่มีอะไรที่เราจะทำไม่ได้ มาเริ่มต้นเลิกนิสัยที่ไม่ดีกันนะคะ มันคุ้มค่าแน่ ๆ ค่ะ 😁