รวม 8 แอปพลิเคชันช่วยฝึกสมาธิ
และนอนหลับดีขึ้น ?
การนั่งสมาธิเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเรา ทำให้จิตใจสงบขึ้น มีสมาธิ และโฟกัสกับการทำงานได้ดียิ่งขึ้น ? แต่การฝึกนั่งสมาธิด้วยตัวเองเพียงคนเดียวอาจจะเป็นเรื่องยากสักหน่อย โชคดีที่ทุกวันนี้เรามีแอปพลิเคชั่นที่ช่วยให้เราทำเรื่องต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการนั่งสมาธิด้วย
หากการนั่งสมาธิของเราไม่ได้มีเพียงแค่เราคนเดียวที่พยายามต่อสู้กับตัวเอง แต่มีคนคอยช่วยแนะนำ และช่วยไกด์ความคิดของเราเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถฝึกนั่งสมาธิได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว โพสต์นี้จึงได้รวบรวมแอปพลิเคชั่นช่วยฝึกสมาธิ และช่วยการนอนหลับของเราให้เต็มอิ่มมากขึ้นทั้งหมด 8 แอป มาดูกันเลย ⭐️
1. Calm
แอปพลิเคชั่นอันดับ 1 ในการฝึกสมาธิ มีเสียงธรรมชาติเป็นแบ็กกราวน์ในการนั่งสมาธิมากมายให้เลือกหลายเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงคลื่นทะเล เสียงฝนตก เสียงน้ำตก เสียงฝืน หรือเสียงจิ้งหรีด ภาพ Scene ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามที่เราเลือก
จุดเด่นหนึ่งที่ชอบมากของ Calm คือการที่มี Daily Calm ให้เราฟังเป็นรายวัน ซึ่งจะมีหัวข้อต่าง ๆ แตกต่างกันไป เช่น เรื่องความมีเมตตา ความกล้าหาญ ฯลฯ แต่หลักใหญ่ก็จะเป็นการนั่งสมาธิเหมือนกัน แต่ Calm ไม่ได้มีแค่การนั่งสมาธิเพียงอย่างเดียวยังมีโหมดอื่น ๆ อีกมากมายที่ช่วยให้เราฝึกการนั่งสมาธิได้ดีขึ้น อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่นี่
2. Headspace
แอปพลิเคชั่นหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในการฝึกสมาธิ ตั้งแต่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 มีสมาชิกกว่า 60 ล้านคนจาก 190 ประเทศทั่วโลก ข้อดีของ Headspace คือช่วยสอนให้เราเข้าใจหลักการที่จำเป็นของการนั่งสมาธิ และการฝึกจิตได้ด้วยบทเรียนพื้นฐานที่ฟรีทั้งหมด 10 บท พร้อมด้วยภาพการ์ตูนที่น่ารักทำให้เรายิ่งมีแรงจูงใจอยากนั่งสมาธิมากขึ้น มีบทเรียนที่สอนให้เข้าใจ และทำตามได้ง่าย สติจับอยู่ที่การหายใจ และรับรู้ความรู้สึกทั่วร่างกายเพื่อดูว่าตอนนี้เรารู้สึกอย่างไรอยู่ อ่านรีวิวเต็ม ๆ ที่ได้ที่นี่
3. Portal Focus
แอปพลิเคชันช่วยฝึกสมาธิที่มีความแตกต่างไปจากแอปอื่นตรงที่แทนที่จะมีเสียงคนคอยพูดบรรยาย และนำการฝึกสมาธิ แต่แอปนี้เน้นการใช้เสียงธรรมชาติช่วยพาผู้ใช้งานให้เข้าถึงสมาธิได้มากขึ้น โดยในแอปจะมีเสียงธรรมชาติที่หลากหลายให้เลือก และภาพระดับ 3D ที่ยิ่งเพิ่มความรู้สึกเหมือนกับเข้าไปอยู่ในธรรมชาตินั้นได้มากขึ้น ไม่ได้ช่วยเราเพียงแค่การผ่อนคลาย นั่งสมาธิเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อนอีกด้วย มีตั้งแต่เสียงพายุช่วงหน้าร้อน ไปจนถึงเสียงป่าไม้ นอกจากนี้ยังมีโหมด “realx” ที่ให้เราฝึกหายใจ และโหมด “focus” ที่ให้เราสามารถโฟกัสได้มากขึ้น เพิ่มความ Productive ได้เป็นอย่างดี
4. Simple Habit
แอปสำหรับผ่อนคลายความเครียดสำหรับคนงานยุ่ง ? ผู้สร้างคือคุณ Yunha Kim ซึ่งมองว่าเราทุกคนต่างไม่ค่อยมีเวลากัน ดังนั้นแอปนี้จึงจัดให้มีระยะเวลาในการนั่งสมาธิเพียง 5 นาทีเท่านั้น ด้วยการบรรยายที่มีคุณภาพช่วยผ่อนคลายความเครียด และทำให้จิตใจของเราสงบมากขึ้นได้ ตัวแอปนั้นใช้งานได้ง่าย สะดวก และทันสมัย เนื้อหาส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้ฟรี แต่อย่างไรก็ตามสำหรับการสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมนั้นก็มีราคาที่ค่อนข้างคุ้มค่าไม่แพงจนเกินไป
ข้อดีของแอปนี้คือการนั่งสมาธินั้นมีจังหวะที่เหมาะสม และช่วยไกด์การนั่งสมาธิได้ดีมาก ผู้ใช้งานสามารถเลือกหัวข้อสิ่งที่ต้องการจากการนั่งสมาธิได้หลากหลายตั้งแต่ครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูใจตัวเองหลังอกหัก การผ่อนคลายหลังทะเลาะเบาะแว้งกันมา ผ่อนคลายความเครียด และการนั่งสมาธิผ่อนคลายความกังวลก่อนงานใหญ่ ๆ ช่วยให้เราเข้าสู่โซนได้ง่ายมากขึ้น
5. Stop, Breathe & Think
แอปพลิเคชั่นนั่งสมาธิที่มีจุดเด่นด้วยการให้เรา “เช็กอิน” ก่อนเข้าสู่การนั่งสมาธิ โดยเลือกว่า ณ ขณะนั้นเรากำลังรู้สึกอย่างไร ทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจ ซึ่งนี่เป็นวิธีหนึ่งที่จะสามารถติดตามจิตใจของเราได้ เพราะบางครั้งเราก็มักเครียดโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเราเครียดมากขนาดไหน จากนั้นเมื่อเราเลือกอารมณ์ที่รู้สึกขณะนี้ไปแล้ว แอปนี้ก็จะแนะนำการนั่งสมาธิ หรือโยคะที่เหมาะสมมาให้ มีตั้งแต่การนั่งสมาธิเป็นระยะเวลาสั้น ๆ 5 นาทีไปจนถึงการฝึกแบบระยะยาว เพื่อช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด หรือกังวลได้ สามารถทดลองใช้งานได้ฟรี 30 กิจกรรม หากเราเลือกสมัครสมาชิกแบบพรีเมี่ยมจะมีให้เลือกมากกว่า 100 กิจกรรม
แอปนี้เหมาะสำหรับบุคคลทุกวัย สามารถตั้งการแจ้งเตือนให้เราไม่ลืมนั่งสมาธิ และติดตามผลการฝึกของเราได้อีกด้วย
6. Ten Percent Happier
ด้วยรูปแบบการใช้งานที่ง่าย และบทเรียนผ่านวีดิโอสั้น ๆ ซึ่งสอนเราเกี่ยวกับการนั่งสมาธิ ช่วยไกด์ขณะที่เราฝึกสมาธิได้ซึ่งมีให้เลือกกว่า 500 กว่าชุด เลือกได้ว่าอยากจะทำตอนไหน เช่น ตอนแปรงฟัน หรือตอนอาบน้ำ เน้นคอนเซปท์ในการทำยังไงให้ดีขึ้น 10% แอปนี้เหมาะมากสำหรับคนที่อยากฝึกสมาธิแต่ไม่รู้จะเอามาแทรกไว้ตอนช่วงไหนของวันดี เราก็ทำสมาธิไปด้วยพร้อมทำกิจวัตรประจำวันไปด้วยเลย
7. MindU
จุดเด่นอย่างหนึ่งของแอปนี้คือไม่ได้ให้เราบอกเพียงแค่ว่าเรารู้สึกอย่างไร แต่จะทำการวัดระดับพลังงานของเราผ่านทางการกดนิ้วมือลงบนหน้าจอมือถือ เพียงเท่านี้ก็สามารถบอกระดับพลังงาน และระดับความเครียดความกังวลของเราได้แล้ว ในทางวิทยาศาสตร์อาจจะดูไม่น่าเป็นไปได้ แต่เรียกได้ว่าค่อนข้างเป็นจุดเด่นที่เฉพาะตัว เราสามารถติดตามระดับพลังงานของเราได้ทุกวันหลังการนั่งสมาธิแต่ละครั้ง
8. Insight Timer
แหล่งไกด์นั่งสมาธิให้เลือกกว่า 30,000 เสียง มีให้เลือกตั้งแต่ผู้ที่เริ่มต้นฝึกนั่งสมาธิใหม่ ๆ ฝึกการมีเมตตาต่อตัวเอง เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น หรือเอาชนะการเสพติดต่าง ๆ ข้อดีคือสามารถรับแต่งการนั่งสมาธิให้เป็นแบบที่เราชอบได้ เช่น เสียงเพลงแบ็กกราวน์ หรือเสียงระฆังบอกหมดเวลา